กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจขนส่งและโรงงานที่มีแผนกขนส่งเป็นของตัวเอง เพราะช่วยจัดการเส้นทาง วางแผนรถ และควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ปัญหาที่หลายบริษัทเจอคือ “จะเลือกระบบ TMS เจ้าไหนดี?
ธุรกิจโลจิสติกส์ในปัจจุบันแข่งขันกันที่ ความเร็ว ความแม่นยำ และต้นทุน การมีเพียงรถและคนขับอาจไม่พออีกต่อไป หลายบริษัทเริ่มหันมาใช้ โปรแกรมขนส่ง หรือ ระบบ TMS (Transportation Management System) เพื่อช่วยจัดการงานขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ แต่จะเลือกใช้โปรแกรมไหนดี?
บทนำ ในโลกของธุรกิจโลจิสติกส์ ความเร็ว ความแม่นยำ และความคุ้มค่า คือสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังมากที่สุด แต่ปัจจุบันบริษัทโลจิสติกส์ SME ไทยจำนวนไม่น้อยยังคงทำงานด้วยวิธี Manual เช่น ใช้ Excel วางแผน ใช้ไลน์กลุ่มติดตามงาน
ในยุคที่ธุรกิจโลจิสติกส์แข่งขันกันด้วยความเร็ว ความแม่นยำ และต้นทุนที่คุ้มค่า ระบบ TMS (Transportation Management System) กลายเป็นหัวใจหลักในการบริหารจัดการขนส่งสินค้า ไม่ว่าจะเป็นโรงงานที่มีแผนกขนส่งของตัวเอง บริษัทรถบรรทุก หรือผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร
ในยุคที่การแข่งขันด้านโลจิสติกส์และการขนส่งเข้มข้นขึ้นทุกวัน ความรวดเร็ว ความแม่นยำ และความคุ้มค่าของต้นทุนกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ตัดสินความอยู่รอดของธุรกิจ
ทำไมการ Follow Up และสรุปผลหลังใช้งานระบบ TMS (โปรแกรมขนส่ง) ถึงเปลี่ยนธุรกิจลูกค้าได้ 1. ระบบ TMS ดีแค่ไหน ถ้าไม่มีการติดตามผลก็อาจไม่เห็นผลลัพธ์
เทคนิค-รวมใหญ่-กระจายเล็ก-เพิ่มกำไรให้ธุรกิจขนส่ง-ถ้าไม่มี-tms-อาจกลายเป็นขาดทุนโดยไม่รู้ตัว ในยุคที่ต้นทุนขนส่งสูงขึ้นทุกวัน ธุรกิจโลจิสติกส์และฝ่ายจัดส่งของโรงงานจำเป็นต้องมองหา “เทคนิคการบริหารต้นทุน”
ธุรกิจขนส่งข้ามแดน (Cross-border Transportation) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในยุคที่อีคอมเมิร์ซและการค้าระหว่างประเทศขยายตัว
ปี 2025 คือยุคที่การแข่งขันในธุรกิจขนส่งไม่ใช่แค่ “แรง” แต่คือ “ดุเดือด” ทุกบริษัท ทุกแพลตฟอร์ม ต่างขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ความเร็ว และเทคโนโลยี
ปี 2025 เป็นยุคที่การแข่งขันในธุรกิจโลจิสติกส์และขนส่งเข้มข้นกว่าที่เคย ต้นทุนพุ่งสูง ลูกค้าอยากได้ราคาถูกลง แต่บริการต้องเร็วขึ้น!
